นอนสปริงกับที่นอนยางพาราต่างกันอย่างไร

ที่นอนสปริงและที่นอนยางพารา ต่างก็มีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน โดยที่นอนสปริงจะมีความยืดหยุ่นสูงกว่าที่นอนยางพารา ในขณะที่นอนยางพาราจะช่วยลดอาการปวดหลัง เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ และทนทานได้ดีกว่า การเลือกวัสดุชั้นด้านบนที่นอนก็สำคัญเช่นกัน เพราะชั้นวัสดุด้านบนจะรองรับบริเวณแผ่นหลังได้ดี นอนแล้วรู้สึกสบายมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบที่นอนสปริงกับที่นอนยางพาราแล้ว แต่ละคนอาจจะนอนและให้ความสบายที่ต่างกัน บางคนชอบที่นอนยางพารามากกว่า เพราะสามารถปรับตัวเข้ากับสรีระร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะที่บางคนก็ชื่นชอบที่นอนแบบสปริงมากกว่า เพราะที่นอนยางพารามีน้ำหนักมาก และต้องใช้น้ำยางพาราในการผลิตสูง จึงอาจจะทำให้ค่อนข้างมีกลิ่นน้ำยางออกมาด้วย หากผ่านกระบวนการผลิตที่นอนคุณภาพดี ก็จะช่วยระบายอากาศได้ดี และกลิ่นยางนั้นก็จะค่อยจางลงไป ถึงอย่างไรก็ตามจะมีกลิ่นของน้ำยาง ก็ไม่ส่งผลอันตรายต่อผู้ใช้อย่างแน่นอน เพราะน้ำยางนั้นผลิตมาจากธรรมชาติ อีกทั้งข้อดีของน้ำยางยังสามารถป้องกันไรฝุ่นและเชื้อราบนที่นอนได้ดีกว่าที่นอนสปริงอีกด้วย

 

จะเห็นได้ว่า “ที่นอนสปริง” จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ต่างกัน เหมาะสำหรับทุกคนทั่วไป และกลายเป็นที่นิยมอย่างยิ่งกับทางโรงแรม ซึ่งที่นอนสปริงราคาค่อนข้างถูกกว่าที่นอนยางพาราทั่วไปหลายเท่า ทำให้คุณสามารถเลือกซื้อได้ในราคาที่ประหยัด แต่ระบบรองรับสรีระอาจจะรับได้เพียงเฉพาะจุดเท่านั้น การเลือกที่นอนสปริงจึงเหมาะมากกว่าสำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคง เพราะสปริงจะยุบตัวลงไปไม่ทำให้เกิดการกดทับ ปวดบริเวณไหล่ในขณะที่นอนหลับ และมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนตัวได้ดี แต่หากใช้ในระยะเวลานานก็อาจจะเสื่อมสภาพ และยุบตัวได้ง่ายเช่นกัน เพราะที่นอนสปริงบางรุ่นก็ยึดสปริงแต่ละลูกเข้าได้ไม่แน่นหนาเท่าที่ควร ขดลวดสปริงจึงล้มง่าย และทำให้เกิดเสียงเสียดสี ขณะพลิกตัวไปมา จึงเหมาะมากกว่ากับคนที่มีน้ำหนักตัวเบา แต่ทั้งนี้ที่นอนสปริงบางรุ่นก็ผลิตขึ้นมาให้ขจัดเสียงรบกวน ขณะพลิกตัวไปมา และบางรุ่นก็สามารถใช้งานได้ยาวนานเลยทีเดียว หากรู้แนวทางในการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ซึ่งคุณสมบัติของที่นอนสปริงจะค่อนข้างมีน้ำหนักเบา หากคุณต้องการยกเคลื่อนย้ายจึงง่ายและสะดวกกว่า แต่ทั้งนี้ที่นอนสปริงจะไม่สามารถพับม้วนได้ 100% เหมือนกับที่นอนยางพารา เพราะอาจจะทำให้ลวดสปริงเกิดความเสียหายได้ ยกเว้นบางรุ่นเท่านั้นที่สามารถพับได้เพียงเล็กน้อย แต่แนะนำให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดูแลเป็นพิเศษ เพื่อจะได้เคลื่อนย้ายอย่างถูกต้อง สำหรับที่นอนสปริงจะไม่มีส่วนผสมของน้ำยางในตัวอยู่แล้ว จึงไม่มีกลิ่น แต่ความสามารถในการป้องกันไรฝุ่น อาจจะไม่ดีเท่าที่นอนยางพารา เพราะที่นอนสปริงทั่วไปจะผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์ ราคาไม่แพง จึงทำให้ที่นอนสปริงเหมาะสำหรับการเลือกซื้อในราคาถูก สามารถให้คุณได้เลือกสรรอย่างหลากหลาย และเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบนอนที่นอนแบบนุ่มเป็นพิเศษ

สำหรับ “ที่นอนยางพารา” จะเหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพมากเป็นพิเศษ เนื่องจากวัสดุยางพารานั้นจะให้สัมผัสที่ผ่อนคลาย กระชับทุกสัดส่วนได้ดีกว่า วัสดุจะมีลักษณะใกล้เคียงกับ Memory Foam สามารถพยุงน้ำหนักตัวได้ ไม่ยุบตัว หากคุณเป็นคนที่นอนหงายเป็นส่วนใหญ่ ก็ควรเลือกที่นอนยางพารา จะช่วยลดอาการปวดเมื่อย และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น โดยวัตถุดิบจะผลิตมาจากยางพารา จึงทำให้มีกลิ่นอ่อน  ของน้ำยางตามธรรมชาติ สามารถย่อยสลายและนำกลับมารีไซเคิลได้ จึงเหมาะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยคุณสมบัติพิเศษของที่นอนยางพาราจะมีฟองอากาศเล็กๆอยู่จำนวนมาก ทำให้จะระบายอากาศได้ดี ไม่เกิดการอับชื้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ จึงปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณและคนในครอบครัว นอกจากนี้หากคุณต้องการเคลื่อนย้ายที่นอนยางพารา ก็สามารถพับ หรือม้วนเก็บได้ 100% โดยไม่หักงอ เพราะที่นอนยางพาราจะมีความทนทานสูง ไม่ยุบตัวง่าย หากคุณต้องการขจัดปัญหาเรื่องอาการปวดเมื่อยขณะนอนหลับ หรือกังวลปัญหาเรื่องของที่นอนยุบตัว ที่นอนยางพาราจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะจะช่วยลดแรงกดทับ พยุงน้ำหนักตัวของร่างกายได้ดีในแต่ละโซน อีกทั้งมีความยืดหยุ่นของยางเป็นอิสระต่อกัน ไม่รบกวนคู่นอนขณะพลิกตัวไปมา พร้อมเติมเต็มช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของคุณได้อย่างสมบูรณ์

 

 

Be the first to comment “นอนสปริงกับที่นอนยางพาราต่างกันอย่างไร”