ชอบที่นอนฟีลลิ่งแน่น มีอายุการใช้งานนาน ซัพพอร์ตร่างกายได้ดี ต้องที่นอนซีรีส์ยางพารา จาก Derma Mercy

ชอบที่นอนฟีลลิ่งแน่น มีอายุการใช้งานนาน ซัพพอร์ตร่างกายได้ดี ต้องที่นอนซีรีส์ยางพารา จาก Derma Mercy

เราภูมิใจนำเสนอ ‘ยางพารา 7 Zones’ เคล็ดลับความนิ่มเพื่อคนไทย โดยคนไทยจาก Derma Mercy
ยางพารา 7 Zones คือ ยางที่ผลิตจากยางพาราธรรมชาติ 100% ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัย และถูกออกแบบให้สามารถเข้าถึงการดูแลโครงสร้างเฉพาะจุดของผู้นอนได้
มีพื้นที่ 7 โซนเพื่อรองรับสรีระส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อพยุงไม่ให้โครงสร้างหลักเสียรูป
.
จุดเด่นของยางพารา 7 Zones จาก Derma Mercy คือ บนพื้นผิวเดียวกันยางพาราของเราให้ความนุ่ม และแน่นที่ไม่เท่ากัน
ช่วงสะโพก หลัง และข้อต่อ เป็นสรีระที่สำคัญที่สุดของโครงสร้างร่างกาย ยางพารา 7 Zones  จะให้ความแน่นในสัดส่วนนี้ เพื่อพยุงไม่ให้โครงสร้างหลักเสียรูป
สัดส่วนอื่น ๆ เช่น ศรีษะ และน่อง จะได้รับสัมผัสที่นุ่มกว่า
ทั้ง 2 จุดเด่นนี้จะช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลและผ่อนคลายเพื่อการนอนหลับที่สบาย
.
ที่สำคัญยางพาราของเราผลิตในประเทศไทยบ้านเกิดของ Derma Mercy ดังนั้น เราจึงมั่นใจในคุณภาพของเนื้อยางพารา

ท่านอนบอกนิสัย แต่ที่นอนดีบ่งบอกสุขภาพการนอนหลับ

ท่านอนบอกนิสัย แต่ที่นอนดีบ่งบอกสุขภาพการนอนหลับ

เรื่องของท่านอน ใครว่าไม่มีความหมาย
บางคนชอบนอนหงาย บางคนชอบตะแคง บางคนชอบคว่ำ
มาทายนิสัยจากท่านอนกันเถอะ ?

1. ท่านอนตะแคง เป็นคนใจเย็น ใจดี เฟรนด์ลี่ ควบคุมอารมณ์ได้ดี แต่มีความดื้อเงียบซ่อนอยู่
2. ท่านอนหงาย เป็นคนมั่นใจในตัวเอง ปากตรงกับใจ คิดยังไงพูดออกไปอย่างนั้น แอบดื้อเบา ๆ
3. ท่านอนกอด เป็นคนอบอุ่น น่ารัก และมักเป็นที่ปรึกษาของเพื่อน ๆ แต่แอบใจอ่อน
4. ท่านอนคว่ำ เฟรนด์ลี่ เพื่อนเยอะ แต่มีความเซนซิทีฟ ร้องไห้ง่ายหากมีอะไรมาสะกิด
5. ท่านอนงอตัว เป็นคนชอบเป็นที่รักของเพื่อน ๆ แต่มีความติสท์ โลกส่วนตัวสูง และเซฟซิทีฟม๊ากก
6. ท่านอนคลุมโปง เป็นคน 2 บุคลิก ภายนอกดูเก่ง น่าเชื่อถือ แต่ลึก ๆ ขี้อายมาก และเป็นคนเก็บความลับเก่ง

เคยสังเกตกันไหม ระหว่างคืนมักจะนอนหลับไม่สนิท แถมตื่นมายังปวดหลังอีก

เคยสังเกตกันไหม ระหว่างคืนมักจะนอนหลับไม่สนิท แถมตื่นมายังปวดหลังอีก
รู้ไว้เลยว่า ‘ท่านอน’ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ปวดหลัง !
.
ถึงแม้จะนอนครบ 8 ชั่วโมง พักผ่อนเพียงพอยังไงก็ตาม แต่ถ้านอนผิดท่า ยังไงก็ปวดหลัง
.
ห้ามนอนท่านี้เด็ดขาด ถ้าไม่อยากปวดหลัง!
นอนขดตัวแบบทารก
นอนคว่ำ
เพราะทั้ง 2 ท่า เป็นท่าที่ทำให้กระดูกสันหลังของคุณไม่เรียงตัวตรง และยิ่งถ้าที่นอนไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการรองรับน้ำหนักอย่างถูกต้องด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ที่นอนเป็นแอ่ง นอนไม่สบาย ลามจะทำให้ปวดช่วงคอเพิ่มขึ้นอีกด้วย
.
ดังนั้น เลือกนอนท่าที่ถูกต้อง จะช่วยลดการปวดหลัง แถมยังทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วยนะ เสริมด้วยที่นอนคุณภาพดี พร้อมซัพพอร์ตร่างกายขณะนอนหลับอย่างอิสระก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก

วิธีเลือกซื้อที่นอน ประเภทต่างๆ

เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหากับเวลาตื่นนอนที่มาพร้อมอาการปวดตัว ปวดหลัง นั่นเป็นเพราะคนเราใช้เวลาอยู่บนที่นอนยาวนานถึง 5-6 ชั่วโมงหรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งการที่เรานอนบนที่นอนที่ไม่ถูกสุขลักษณะอาจจะนุ่มหรือแข็งจนเกินไป จึงเป็นสาเหตุหลักทำให้อาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นการนอนบนที่นอนที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามสรีระ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้  เราจึงมาแนะนำการเลือกที่นอนแบบไหนดีต่อสุขภาพ รับรองว่าคุณจะหลับสบายตลอดทั้งคืน

 

#ขนาดของที่นอน

สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกในการเลือกซื้อที่นอนคือ ขนาดของที่นอน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง อาทิ ขนาดของห้องนอน ขนาดเตียง จำนวนคน เป็นต้น ซึ่งหลักๆ แล้วที่นอนมี 2 ประเภท คือ สำหรับเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ เตียงเดี่ยวจะมีขนาดระหว่าง 3.5 ฟุต และ 4 ฟุต ส่วนเตียงคู่จะมีขนาดให้เลือกมากขึ้น คือ 5, 6, 6.5 และ 7 ฟุต ตามลักษณะการใช้งานและความเหมาะสม

ปัจจุบันที่นอนมีรูปแบบต่างๆ ให้เลือกมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ที่นอนสปริง ที่นอนยางพารา และที่นอนเมมโมรี่โฟม ซึ่งมีคุณสมบัติข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป

 

#ที่นอนสปริง

ที่นอนสปริง เป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาไม่สูงจนเกินไปและมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง รองรับสรีระได้เป็นอย่างดี ข้อดีคือ นุ่มเด้ง น้ำหนักเบา แต่จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของสปริง ยิ่งเกลียวสปริงมากก็จะยิ่งยืดหยุ่นและรับน้ำหนักได้ดี ตัวสปริงไม่แข็งหรืออ่อนจนเกินไป มีทั้งสปริงแบบแยกอิสระที่เรียกว่า Poster Tech จนพัฒนาขึ้นเป็น Pocket Spring หรือสปริงอิสระที่เหมาะสำหรับเตียงคู่

 

#ที่นอนยางพารา

ที่นอนยางพารา มีราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากมีความคงทนแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดี สามารถใช้งานยาวนานสูงสุดได้ถึง 20 ปี แต่จะมีน้ำหนักค่อนข้างมากกว่าที่นอนสปริง ไม่กักเก็บฝุ่นและความชื้น จึงไม่จำเป็นต้องตากแดด อาจเพียงแค่ระบายอากาศให้ปลอดโปร่ง ที่นอนชนิดนี้เวลานอนแล้วจะนุ่มไม่ยุบตัว เนื่องจากทำมาจากยางพารา 100%

 

#ที่นอนเมมโมรีโฟม

เมมโมรีโฟม (Memory Foam) หรือ ที่นอนสุขภาพ เป็นที่นอนสุขภาพแก้ปวดหลังเหมาะสำหรับผู้ที่ประสบปัญหากับอาการปวดเมื่อยบริเวณหลังและลำคอ ทำจากแผ่นโฟมที่ผลิตจากใยสังเคราะห์และมีความหนาแน่นกว่าโฟมทั่วไป ราคาค่อนข้างสูง ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับขนาด เพื่อสุขภาพที่ดีควรใช้แผ่นโฟมที่มีความหนาตั้งแต่ 1-2 นิ้ว

 

#แผ่นรองเสริมที่นอน

แผ่นรองเสริมที่นอน มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความนุ่มให้กับที่นอน ทำให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถทำให้ยืดระยะเวลาอายุการใช้งานของที่นอน แนะนำว่าให้หาแผ่นรองเสริมที่นอนตามขนาดที่เหมาะสมมาเสริม จะทำให้ประสิทธิภาพในการหลับของคุณสบายตลอดทั้งคืน

ที่มา: https://www.central.co.th

 

นอนสปริงกับที่นอนยางพาราต่างกันอย่างไร

ที่นอนสปริงและที่นอนยางพารา ต่างก็มีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน โดยที่นอนสปริงจะมีความยืดหยุ่นสูงกว่าที่นอนยางพารา ในขณะที่นอนยางพาราจะช่วยลดอาการปวดหลัง เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ และทนทานได้ดีกว่า การเลือกวัสดุชั้นด้านบนที่นอนก็สำคัญเช่นกัน เพราะชั้นวัสดุด้านบนจะรองรับบริเวณแผ่นหลังได้ดี นอนแล้วรู้สึกสบายมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบที่นอนสปริงกับที่นอนยางพาราแล้ว แต่ละคนอาจจะนอนและให้ความสบายที่ต่างกัน บางคนชอบที่นอนยางพารามากกว่า เพราะสามารถปรับตัวเข้ากับสรีระร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะที่บางคนก็ชื่นชอบที่นอนแบบสปริงมากกว่า เพราะที่นอนยางพารามีน้ำหนักมาก และต้องใช้น้ำยางพาราในการผลิตสูง จึงอาจจะทำให้ค่อนข้างมีกลิ่นน้ำยางออกมาด้วย หากผ่านกระบวนการผลิตที่นอนคุณภาพดี ก็จะช่วยระบายอากาศได้ดี และกลิ่นยางนั้นก็จะค่อยจางลงไป ถึงอย่างไรก็ตามจะมีกลิ่นของน้ำยาง ก็ไม่ส่งผลอันตรายต่อผู้ใช้อย่างแน่นอน เพราะน้ำยางนั้นผลิตมาจากธรรมชาติ อีกทั้งข้อดีของน้ำยางยังสามารถป้องกันไรฝุ่นและเชื้อราบนที่นอนได้ดีกว่าที่นอนสปริงอีกด้วย

 

จะเห็นได้ว่า “ที่นอนสปริง” จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ต่างกัน เหมาะสำหรับทุกคนทั่วไป และกลายเป็นที่นิยมอย่างยิ่งกับทางโรงแรม ซึ่งที่นอนสปริงราคาค่อนข้างถูกกว่าที่นอนยางพาราทั่วไปหลายเท่า ทำให้คุณสามารถเลือกซื้อได้ในราคาที่ประหยัด แต่ระบบรองรับสรีระอาจจะรับได้เพียงเฉพาะจุดเท่านั้น การเลือกที่นอนสปริงจึงเหมาะมากกว่าสำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคง เพราะสปริงจะยุบตัวลงไปไม่ทำให้เกิดการกดทับ ปวดบริเวณไหล่ในขณะที่นอนหลับ และมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนตัวได้ดี แต่หากใช้ในระยะเวลานานก็อาจจะเสื่อมสภาพ และยุบตัวได้ง่ายเช่นกัน เพราะที่นอนสปริงบางรุ่นก็ยึดสปริงแต่ละลูกเข้าได้ไม่แน่นหนาเท่าที่ควร ขดลวดสปริงจึงล้มง่าย และทำให้เกิดเสียงเสียดสี ขณะพลิกตัวไปมา จึงเหมาะมากกว่ากับคนที่มีน้ำหนักตัวเบา แต่ทั้งนี้ที่นอนสปริงบางรุ่นก็ผลิตขึ้นมาให้ขจัดเสียงรบกวน ขณะพลิกตัวไปมา และบางรุ่นก็สามารถใช้งานได้ยาวนานเลยทีเดียว หากรู้แนวทางในการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ซึ่งคุณสมบัติของที่นอนสปริงจะค่อนข้างมีน้ำหนักเบา หากคุณต้องการยกเคลื่อนย้ายจึงง่ายและสะดวกกว่า แต่ทั้งนี้ที่นอนสปริงจะไม่สามารถพับม้วนได้ 100% เหมือนกับที่นอนยางพารา เพราะอาจจะทำให้ลวดสปริงเกิดความเสียหายได้ ยกเว้นบางรุ่นเท่านั้นที่สามารถพับได้เพียงเล็กน้อย แต่แนะนำให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดูแลเป็นพิเศษ เพื่อจะได้เคลื่อนย้ายอย่างถูกต้อง สำหรับที่นอนสปริงจะไม่มีส่วนผสมของน้ำยางในตัวอยู่แล้ว จึงไม่มีกลิ่น แต่ความสามารถในการป้องกันไรฝุ่น อาจจะไม่ดีเท่าที่นอนยางพารา เพราะที่นอนสปริงทั่วไปจะผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์ ราคาไม่แพง จึงทำให้ที่นอนสปริงเหมาะสำหรับการเลือกซื้อในราคาถูก สามารถให้คุณได้เลือกสรรอย่างหลากหลาย และเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบนอนที่นอนแบบนุ่มเป็นพิเศษ

สำหรับ “ที่นอนยางพารา” จะเหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพมากเป็นพิเศษ เนื่องจากวัสดุยางพารานั้นจะให้สัมผัสที่ผ่อนคลาย กระชับทุกสัดส่วนได้ดีกว่า วัสดุจะมีลักษณะใกล้เคียงกับ Memory Foam สามารถพยุงน้ำหนักตัวได้ ไม่ยุบตัว หากคุณเป็นคนที่นอนหงายเป็นส่วนใหญ่ ก็ควรเลือกที่นอนยางพารา จะช่วยลดอาการปวดเมื่อย และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น โดยวัตถุดิบจะผลิตมาจากยางพารา จึงทำให้มีกลิ่นอ่อน  ของน้ำยางตามธรรมชาติ สามารถย่อยสลายและนำกลับมารีไซเคิลได้ จึงเหมาะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยคุณสมบัติพิเศษของที่นอนยางพาราจะมีฟองอากาศเล็กๆอยู่จำนวนมาก ทำให้จะระบายอากาศได้ดี ไม่เกิดการอับชื้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ จึงปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณและคนในครอบครัว นอกจากนี้หากคุณต้องการเคลื่อนย้ายที่นอนยางพารา ก็สามารถพับ หรือม้วนเก็บได้ 100% โดยไม่หักงอ เพราะที่นอนยางพาราจะมีความทนทานสูง ไม่ยุบตัวง่าย หากคุณต้องการขจัดปัญหาเรื่องอาการปวดเมื่อยขณะนอนหลับ หรือกังวลปัญหาเรื่องของที่นอนยุบตัว ที่นอนยางพาราจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะจะช่วยลดแรงกดทับ พยุงน้ำหนักตัวของร่างกายได้ดีในแต่ละโซน อีกทั้งมีความยืดหยุ่นของยางเป็นอิสระต่อกัน ไม่รบกวนคู่นอนขณะพลิกตัวไปมา พร้อมเติมเต็มช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของคุณได้อย่างสมบูรณ์

 

 

ข้อดีของที่นอนยางพารา

เหตุผลหลัก ทำไมผู้คนส่วนใหญ่ถึงชื่นชอบที่นอนยางพารา มีดังนี้

1. ลดอาการปวดหลัง และแรงกดทับได้ดี

ด้วยชั้นวัสดุโครงสร้างของที่นอนยางพาราที่สามารถยึดเหนี่ยวกันได้อย่างเหนียวแน่น ส่งผลให้มีแรงต้านต่อน้ำหนักที่กดทับและมีความยืดหยุ่นสูง จึงลดแรงกดทับได้อย่างนุ่มนวล ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ นอนแล้วไม่รู้สึกปวดหลัง

2. ขจัดปัญหาเสียงรบกวน ขณะพลิกตัวไปมาบนที่นอน

ที่นอนยางพาราจะมีความยืดหยุ่นเฉพาะในแต่ละด้าน เป็นอิสระต่อกัน และไม่มีระบบสปริงภายใน จึงลดแรงสั่นสะเทือนหรือเสียงดัง ขณะคนข้างเคียงพลิกตัวไปมา ทำให้คุณและคู่นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน

3. ช่วยกำจัดปัญหาไรฝุ่น และแบคทีเรียบนที่นอน

คุณสมบัติตามธรรมชาติของที่นอนยางพารา จะต่างจากที่นอนแบบอื่นทั่วไปก็คือ ไรฝุ่นและแบคทีเรีย จะไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในเนื้อยางพารา จึงสามารถป้องกันคุณจากไรฝุ่นและโรคภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ

4. ไม่สะสมความชื้น ระบายอากาศได้ดี

ที่นอนยางพารา จะมีรูเล็กๆจำนวนนับล้าน เพื่อระบายอากาศ ไม่ก่อให้เกิดอาการอับชื้น ไม่สะสมความร้อน คุณจึงนอนหลับบนที่นอนยางพาราธรรมชาติได้อย่างเย็นสบาย ผ่อนคลายตลอดทุกการสัมผัส

5. ที่นอนคงสภาพ พร้อมใช้งานยาวนาน

จะมีความทนทานสูงกว่าที่นอนสปริง และไม่ต้องมีการดูแลรักษาบ่อย เพราะที่นอนยางพาราจะเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ สามารถคลายตัวได้ดี เมื่อมีการกดทับก็จะคืนตัว ดังนั้นจึงมีความทนทานมากเป็นพิเศษ และไม่ต้องคอยพลิกที่นอนไปมาให้คงคุณภาพเหมือนที่นอนแบบอื่นทั่วไป ดูแลรักษาง่าย พร้อมการใช้งานที่ยาวนาน

6. วัสดุมาจากธรรมชาติ เหมาะกับคนรักสุขภาพ

เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ทำมาจากน้ำยางพารา จึงสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และสามารถรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งคนส่วนใหญ่ก็เริ่มให้ความสำคัญด้านสุขภาพกันมากขึ้น ที่นอนยางพาราจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักสุขภาพ และคนรุ่นใหม่ที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ที่นอน ยางพารา” จึงกลายเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ความพิเศษของที่นอนยางพาราจะต่างกับที่นอนสปริงอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูงกว่าที่นอนสปริง เนื่องจากต้องใช้น้ำยางยางพาราปริมาณมาก และใช้เทคโนโลยีในการผลิตสูง โดยเฉพาะที่นอนยางพาราแท้ทั้งหลัง อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปี โดยคุณไม่จำเป็นต้องพลิกที่นอนตลอดอายุการใช้งาน เพราะจะไม่มีส่วนของเส้นลวดสปริงเข้ามารับน้ำหนัก แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพของชั้นวัสดุภายในแล้ว ที่นอนยางพาราจะมีความคงทนสามารถใช้งานได้ยาวนาน คุณภาพจึงคุ้มค่าเกินกว่าราคา หากคุณได้เลือกซื้อที่นอนคุณภาพดีสักครั้งในชีวิต ก็จะช่วยทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์มากที่สุด